วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เครื่องฟอกอากาศประเภทต่างๆ_RCI(Radiant Catalytic Ionization)เทคโนโลยีจากNASA

Space Certified
เครื่องฟอกอากาศ ในสภาพชีวิตความเป็นอยู่ ที่เร่งรีบ และแออัด ประกอบกับ สภาพอากาศ ที่มีมลภาวะสูงขึ้นในปัจจุบัน อันเนื่องมาจาก ผลข้างเคียง ของการเติบโต ของสังคม และจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น เช่น ควันเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม ไอเสียจากยานยนต์ ฝุ่นละออง หรือมลพิษทางอากาศอื่นๆ ทำให้ผู้คนต้องการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งในระหว่างทำงานและที่บ้าน ที่มีเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้ความเย็น ซึ่งทำให้โอกาสที่จะได้รับอากาศบริสุทธิ์ จากธรรมชาติที่แท้จริง จึงมีน้อยลงทุกขณะ ถึงแม้ว่า แต่ละคนจะมีโอกาส ในการไปพักผ่อนตากอากาศ เป็นครั้งคราวก็ตาม
การอยู่ในห้องปรับอากาศซึ่งมีการปรับอุณหภูมิที่พอเหมาะ จะสามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับมลภาวะทางอากาศได้ระดับหนึ่ง แต่อากาศภายในห้องปรับอากาศ ซึ่งเป็นอากาศที่หมุนเวียนผ่าน เครื่องปรับอากาศตลอดเวลา และถ่ายเทออกสู่บรรยากาศภายนอก เพียงเล็กน้อย รวมทั้งความชื้นจากในอากาศ และในตัวเครื่องปรับอากาศเอง อีกทั้งฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายอยู่ทั่วไป อาจกลายเป็นแหล่ง แพร่เชื้อ และไม่เป็นผลดีต่อผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศในบ้าน จึงเป็นทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ

เครื่องฟอกอากาศในบ้านประเภทต่างๆ

จากพัฒนาการของการผลิตเครื่องฟอกอากาศในบ้านที่พัฒนามาโดยลำดับ และมีการปรับปรุงการผลิตให้ตอบสนองความต้องการของ ผู้บริโภคนั้น ทำให้ในปัจจุบันมีการผลิตเครื่องฟอกอากาศออกมา เป็นประเภทต่างๆ ดังต่อไปนี้

เครื่องฟอกอากาศแบบใช้แผ่นกรองคาร์บอน ( Carbon Air Purifiers )

เครื่องฟอกอากาศชนิดนี้ใช้คาร์บอน เป็นสารที่ทำปฏิกริยาดูดกลิ่นสกปรก และกลิ่นอับชื้นในอากาศ โดยใช้ไส้กรองที่มีส่วนผสมของ คาร์บอน เป็นตัวดักจับกลิ่นจากอากาศที่ถูกเป่า หรือดูดหมุนเวียนผ่านไส้กรอง ซึ่งต้องเปลี่ยนไส้กรอง ตามอายุการใช้งาน

เครื่องฟอกอากาศแบบใช้ประจุไฟฟ้า ( Ionic Air Purifiers )

เครื่องฟอกอากาศชนิดนี้สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ซึ่งนอกจากสามารถดักจับฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศแล้ว ยังสามารถกรองฝุ่น เกสรดอกไม้ ควันบุหรี่ ขนสัตว์เลี้ยง รวมทั้งกลิ่นของสารระเหย และกลิ่นของน้ำยา หรือสารเคมีต่างๆ ที่ใช้ในครัวเรือน จากคุณสมบัติดังที่กล่าวมาจึงทำให้เครื่องฟอกอากาศชนิดนี้ เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

เครื่องฟอกอากาศแบบประสิทธิภาพในการกรองสูง ( High Efficiency Particle Arresting : HEPA )

เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและดีที่สุด สามารถกรองอากาศได้บริสุทธิ์ถึง 99.97% เพราะใช้ไส้กรองแบบเดียวกันกับ ที่ใช้ในห้อง Clean Room ในอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิคส์บางประเภท หรือใช้สำหรับห้องผ่าตัดในโรงพยาบาล รวมทั้งในอุตสาหกรรม เวชภัณฑ์ ไส้กรองเป็นแบบชนิดที่ทำจากใยแก้วละเอียด ซึ่งมีอายุการใช้งานระหว่าง 2 ถึง 4 ปี และมีประสิทธิภาพในการกรองสูง แต่ไม่สามารถดูดซับกลิ่นและควันได้

เครื่องฟอกอากาศแบบผสม

เป็นเครื่องฟอกอากาศแบบที่รวมข้อดี ของเครื่องฟอกอากาศต่างชนิดไว้ด้วยกัน ทำให้เครื่องฟอกอากาศแบบนี้ สามารถกำจัดกลิ่นควัน และฝุ่นละอองได้ ในเครื่องเดียวกัน ซึ่งอาจเป็นแบบผสมระหว่างไส้กรอง HEPA/Ionic และแบบผสมระหว่างไส้กรอง HEPA ไส้กรองคาร์บอน รวมทั้งแบบผสมชนิดอื่นๆ ที่มีระบบ Ionic ร่วมอยู่ด้วยเป็นส่วนใหญ่
นอกจากนี้ยังมี

เครื่องกำเนิดโอโซน ( Ozone Generator )

ใช้สำหรับให้กำเนิดโอโซนเพียงอย่างเดียวที่สามารถขจัดกลิ่นและควันที่ปะปนอยู่ในอากาศ เครื่องกำเนิดโอโซนที่สามารถผลิต โอโซน ในปริมาณสูง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในภัตตาคาร สถานบันเทิง และสถานที่ที่อากาศหมุนเวียนภายใน มีสิ่งปนเปื้อนสูง และกลิ่นสกปรก รวมถึงกลิ่นอับชื้นต่างๆ เช่น กลิ่นจากอาหาร ควันบุหรี่ ห้องน้ำ เป็นต้น

เครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV ( Germicidal UV lights )

ใช้คุณสมบัติของแสง UV ในการฆ่าเชื้อโรคตามพื้นผิวต่างๆ แต่จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้เฉพาะส่วนที่สัมผัสกับแสงโดยตรง และการฆ่าเชื้อโรคด้วยวิธีนี้ จะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการทำลายเชื้อโรค เหมือนที่เราเอาไปตากแดด ผลเสียคือ อุปกรณ์ที่โดนแสง UV เป็นเวลานานจะมีความเสียหายได้ เช่น กรอบ, แตก, สีซีด และวิธีการฆ่าเชื้อโรคแบบนี้ จะไม่มีผลกับเชื้อโรคที่อยู่ในอากาศ
สภาวะอากาศที่มีมลพิษสูงขึ้นเรื่อยมา โดยเฉพาะ ในประเทศอุตสาหกรรม ส่งผลให้ความต้องการ เครื่องฟอกอากาศสูงขึ้น 1 จากการสำรวจ ในสหรัฐอเมริกา พบว่าในปี 2545 ยอดการจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศทุกๆ แบบรวมกันมีมากกว่า 3 ล้านเครื่อง สูงกว่าปี 2544 ถึง 70% และคาดว่าความต้องการ เครื่องฟอกอากาศ จะมีสูงขึ้นเรื่อยมา ความกังวลในเรื่องของโรคภูมิแพ้ สิ่งปนเปื้อนในอากาศ และโรคทางเดินหายใจ เฉียบพลันรุนแรง ( Severe Acute Respiratory Syndrome : SARS ) ยังคงเป็นปัจจัยเสริมที่ส่งผลให้ ยอดขายเครื่องฟอกอากาศยังคงเพิ่มขึ้นเสมอมา
เครื่องฟอกอากาศ สำหรับในประเทศไทยนั้น เครื่องฟอกอากาศในบ้านเป็นสินค้าที่เริ่มจะได้รับความนิยมสูงขึ้นโดยในปี 2546 ที่ผ่านมา มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณกว่า 2500 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท เครื่องฟอกอากาศในบ้าน ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน มีความหลากหลายในด้านราคา โดยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาด, กำลัง, ประสิทธิภาพ ในการฟอกอากาศ และเทคโนโลยีที่ใช้
เครื่องฟอกอากาศ Generation ใหม่ ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RCI (Radiant Catalytic Ionization)
  • เป็นเครื่องฟอกอากาศระบบ RCI (Radiant Catalytic Ionization) รุ่นล่าสุด
  • ไม่มีไส้กรอง และมีขนาดเล็ก น้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม
  • สามารถฟอกอากาศให้สะอาดได้ ในพื้นที่ 1,500 ตารางฟุต
  • มีงานวิจัยกว่า 12 งานวิจัย ที่พิสูจน์ประสิทธิภาพ การทำงานของเครื่องมาแล้ว
  • เป็นเครื่องฟอกอากาศ เครื่องแรกที่ฆ่าเชื้อโรคในอากาศได้ทุกชนิด แม้แต่เชื้อไข้หวัดนก จากการทดลองของมหาวิทยาลัย แคสซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า หลังจากติดตั้ง NOVUS AIR แล้ว เชื้อไข้หวัดนกนั้นได้สลายไปกว่า 99% ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง




novus-air_graph


3 in 1 Technologies in NOVUS AIR ซึ่งในเครื่อง NOVUS AIR จะมีถึง 3 เทคโนโลยีในเครื่องเดียว ดังนี้
  1. O3 Purification (ทำงานใน Away Mode) เป็นเทคโนโลยีโอโซน ที่ใช้ในการเร่งกำจัดเชื้อโรค และกลิ่นต่างๆ ภายในห้อง ให้สลายไป ได้อย่าง รวดเร็วยิ่งขึ้น
  2. Needlepoint ionization ที่มีการปล่อยประจุไฟฟ้าแบบ +/- pulse ionization เพื่อแยก เชื้อโรค ฝุ่น ควัน ให้ออกจากอากาศ ทำให้อากาศภายในห้อง กลายเป็นอากาศบริสุทธิ์
  3. RCI หรือ Active Pure เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง ที่รวมการใช้เทคนิค Advanced Oxidation Technology และการเปลี่ยนความชื้นในธรรมชาติและออกซิเจน ให้เป็นเปอร์ออกไซด์และซุปเปอร์ออกไซด์ เพื่อกำจัดเชื้อโรค และทำให้อากาศที่เราหายใจมีความสะอาด อีกทั้งยังเป็นการลดจำนวน Ozone ในอากาศไม่ให้มีมากเกินไป
Advantage of Active Technology of NOVUS AIR ประโยชน์ของเทคโนโลยีแบบ Active ที่มีอยู่ในเครื่อง NOVUS AIR
  • ไม่มีใส้กรอง ซึ่งระบบใส้กรองต่างๆ เช่น ใส้กรอง Carbon และ HEPA จะเป็นค่า maintance เครื่องในระยะยาว โดยเฉลี่ย ใส้กรอง Carbon จะมีราคาประมาณ 2-3 พันบาท ซึ่งบางยี่ห้อไม่สามารถล้างได้ ต้องเปลี่ยนเป็นประจำทุกปี และใส้กรอง HEPA โดยเฉลี่ยมีอายุการใช้งาน 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพปริมาณฝุ่นในห้อง ยิ่งฝุ่น, ควันมากยิ่งต้องเปลี่ยนเร็วขึ้น และเครื่องฟอกอากาศที่ใช้ระบบใส้กรอง จะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเชื้อโรคต่างๆ เมื่อใช้ไปซักระยะนึง ซึ่งเมื่อใดที่เราปิดเครื่องฟอกอากาศระบบนี้ ก็มีโอกาสที่จะทำให้เชื้อโรคและฝุ่นกลับมาแพร่สู่อากาศในห้องได้อีก เนื่องจากไม่ใช่เป็นการกำจัดเชื้อโรค แต่เป็นการดักเก็บไว้ที่ใส้กรองเท่านั้น
  • ตัวเครื่องขนาดเล็ก มีขนาดเพียง 6.5 นิ้ว x 6.5 นิ้ว x 7 นิ้ว และมีน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม ทำให้สะดวก ในการเคลื่อนย้าย ไปห้องต่างๆ ในบ้าน ได้โดยง่าย อีกทั้งยังมีขนาดเล็กพอ ที่จะนำใส่กระเป๋าเดินทาง ไปใช้ในโรงแรม ต่างๆ ที่เราพัก เมื่อยามเดินทางไกล
  • ประสิทธิภาพ ในการใช้งานต่อพื้นที่สูงกว่า ด้วย NOVUS AIR 1 เครื่อง สามารถใช้งานกับห้องขนาดใหญ่ได้ถึง 1,500 ตารางฟุต หรือประมาณ 135-150 ตารางเมตร ซึ่งทำให้ประหยัดจำนวนเครื่องฟอกอากาศที่ต้องใช้ ในพื้นที่ขนาดเดียวกัน เมื่อเทียบกับ เครื่องฟอกอากาศทั่วๆไป ที่อาจต้องใช้ 4-7 เครื่อง
  • สามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ตามพื้นผิวต่างๆ ได้ เนื่องจากหลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ NOVUS AIR ไม่ใช่เป็นการดูดอากาศรอบๆเครื่องมาผ่าน ใส้กรองต่างๆ เช่น Carbon และ HEPA แล้วพ่นกลับออกมา แต่เป็นการสร้างไอออนพ่นออกไปในอากาศกระจายทั่วห้อง ดังนั้นเชื้อโรคที่อยู่บนผิวของวัตถุต่างๆในห้อง จึงถูกกำจัดไป ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ, เก้าอี้, เตียงนอน, ผ้าปูที่นอน, ผนัง, กำแพง, ลูกบิดประตู ฯลฯ เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถใช้ในการถนอมอาหารให้สด ใหม่ ปราศจากเชื้อโรคได้นานยิ่งขึ้นด้วย
  • มีเอกสารงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยรองรับ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าสามารถใช้งานได้จริง ซึ่งไม่ใช่เอกสารที่ทำขึ้นจากทาง บริษัท จึงส่งผลให้มีความน่าเชื่อถือ และมั่นใจในประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

==================================


NASA - Space Program - RCI - Active Pure - Unovus @ UNOVUS.in.th
space_program

ขอนำว่า Unovus เกี่ยวข้องอะไรกับ NASA และ SPACE PROGRAM คืออะไร ??
Space Program เป็นหน่วยงาน สังกัดองค์การ NASA มีหน้าที่ คิดค้น วิจัย นวัตกรรมเทคโนโลยี สำหรับใช้ ในอวกาศและ เผยแพร่สู่ มวลมนุษย์ชาติ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เทคโนโลยี Space Program เช่น ระบบการฟอกอากาศ, ชุดนักบินอวกาศ, ที่นอนนักบินอวกาศ, อาหารสำหรับนักบินอวกาศ, สารเพิ่ม ประสิทธิภาพ ให้กับเชื้อเพลิง ฯลฯ
active_pure_rci
ACTIVE PURE เทคโนโลยี ที่ทำให้ อากาศบริสุทธิ์ กำจัดกลิ่น ควัน ทำให้เชื้อโรคต่างๆ ไวรัส และแบคทีเรีย ที่ฟุ้ง กระจายในอากาศ หรือ พื้นผิวลดจำนวนลง
เทคโนโลยี Active Pure ซึ่งเกิดจากกระบวนการ Photocatalytic Oxidation (PCO) นั้น เป็นเทคโนโลยีที่ใช้โดยองค์การ NASA เพื่อที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ขณะอยู่ในอวกาศ ทางบริษัท UNOVUS ของเราจึงรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี ที่ใช้ในองค์การชั้นนำนี้ โดยนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับที่พักอาศัย
เทคโนโลยี Radiant Catalytic Ionization (RCI) ประกอบด้วย กระบวนการ Photocatalytic ซึ่งใช้ แสง UV,ไทเทเนียม และแผ่นเหล็ก ซึ่งหุ้มด้วยสาร Hydrophilic ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการทำให้อากาศบริสุทธิ์และกำจัด จุลินทรีย์ หรือเชื้อโรค ที่อยู่ตาม พื้นผิวต่างๆ
เทคโนโลยีนี้ถูกคิดค้นและพัฒนาจากมหาวิทยาลัย วิสคอนซิล ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับทุนในการวิจัยและพัฒนาโดยองค์การ NASA และศูนย์วิจัยอากาศภายในอาคาร (CIAR)
จะรู้ได้อย่างไรว่า RCI เป็นเทคโนโลยีของ Space Program จริง ??
สามารถเข้าไปดูได้ว่า เทคโนโลยี RCI (Radiant Catalytic Ionization) เป็นเทคโนโลยีที่ NASA ได้ร่วมการวิฉัยกับทาง EcoQuest จริงได้ที่เวป SPACE FOUNDATION ตามลิ้งค์นี้
http://www.spaceconnection.org/products/categorysearch/id/1/

space_foundation

NASA ได้ทดลองปลูกพืชในสถานีอวกาศซึ่งเป็นระบบปิดและพบว่า พืชจะคายก๊าซเอธิลีน ออกมาโดยก๊าซเอธิลีนนี้ ถ้ามีมาก จะเป็น อันตรายต่อพืชเอง เช่นเดียวกับมนุษย์จะหายใจออกมาเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งถ้ามีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากไป จะทำให้ เกิดอันตรายได้ และทาง NASA ได้ใช้เทคโนโลยี ของ แสง UV, ไทเทเนียม, Photocatalytic เข้ามาช่วย และทำให้พืช เจริญเติบโต ได้เต็มที่ ในสถานนีอวกาศ แล้วได้นำเทคโนโลยีนี้ มาใช้ในการถนอมอาหาร และการบรรจุผลิตภัณฑ์ โดยจะเพิ่มอายุ ในการเก็บรักษา ได้นานขึ้น
rci-setka
กระบวนการ Photocatalytic เกิดจากการ ใช้คลื่นแสง UV ที่แตกต่างกันสามชนิดทำปฏิกิริยากับ ออกซิเจนและความชื้นในอากาศ เพื่อสร้าง Oxidizers (การรวมตัวกับออกซิเจน) โดย Oxidizers นี้ประกอบด้วย ออกซิเจนและ ไฮโดรเจน และทำให้กลับไปสู่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำ ที่ไม่เป็นอันตราย ซึ่งกระบวนการ Oxidizes นี้ไม่มีสารเคมีตกค้างหรือเข้ามาเกี่ยวข้องเลย
กระบวนการ Oxidizers นี้จะทำให้เกิด
1. Hydroxyl Radicals (OH)
2. ละออง Hydrogen Peroxide (H2O2)
3. Super Oxides (O2-)
4. Ozone (O3) ในระดับต่ำ
ซึ่งกระบวนการเหล่านี้สามารถนำไปพัฒนาและควบคุมการติดเชื้อโรคหรือยับตั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียต่างๆได้
rci_uv_rays
Radiant Catalytic Ionization (RCI) ทำให้เกิดระบบควบคุมเชื้อโรคแบบใหม่ขึ้นมา ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง และสามารถนำไปใช้ ในหน่วยงานของ รัฐบาล, ในธุรกิจต่างๆ, คลินิค, สถานศึกษา, การขนส่งมวลชน และในโรงพยาบาล เป็นต้น จากผลการวิจัย ของมหาวิทยาลัยแคนซัส และ มหาวิทยาลัยซินซิแนติ ของสหรัฐอเมริกา ได้พิสูจน์แล้วว่าระบบ RCI นั้น สามารถกำจัดพวก ไวรัส, เชื้อรา และแบคทีเรียได้ และกระบวนการ Oxidations นี้ยังสามารถทำลายเชื้อ ไข้หวัด H5N8, Methycillin Resistant Staphylococcus Aureus (MRSA) – ซาร์, Streptococcus, E-Coli, Listeria, Candida, Pseudomonas, Bacillus Subtilis, และ Stachybotrys Chartarum (ราดำ)
novus-air_graph
ซึ่งผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยี RCI สามารถฆ่าเชื้อโรค, เชื้อไวรัสและแบททีเรียที่อยู่ในอากาศและพื้นผิวเหล่านี้ได้ อย่างน้อย 96.4% และสูงสุดถึง 99.99% หลังจากที่ได้เริ่มกระบวนการ RCI นี้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
บทสรุป สำหรับการใช้ระบบ Radiant Catalytic Ionization (RCI) ในสถานที่ทำงานหรือในที่พักอาศัย มีประโยชน์ดังนี้
1. กำจัดกลิ่นต่างๆที่ไม่พึงประสงค์
2. ทำให้โอกาสในการเป็นไข้หรือเป็นหวัดลดน้อยลง จากการจามหรือไอของผู้คนในบริเวณนั้น ซึ่งจะทำให้เชื้อโรค และไวรัสต่างๆ ฟุ้งกระจายในอากาศ
3. ลดการเน่าเสียของอาหารต่างๆ จากพวกแบคทีเรียหรือเชื้อรา ซึ่งอาจทำให้อาหารเป็นพิษได้
4. สามารถถนอมอาหารไว้ได้นานขึ้น
5. ลดจำนวนเชื้อรา และแบคทีเรียในอากาศ และบริเวณพื้นผิว
6. ลดจำนวนอณูเล็กๆ หรือละอองต่างๆที่ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งเครื่องกรองอากาศส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้
7. ลดมลภาวะอากาศภายในอาคาร ทำให้อากาศบริสุทธิ์
เราหายใจเข้า-ออก ประมาณ 23,000 ครั้ง ต่อวัน และสูดอากาศเข้าไป ประมาณ 12 ลูกบาศก์เมตร จะดีไม่ใช่น้อยเลย ถ้าอากาศเหล่านั้น เป็นอากาศที่บริสุทธิ์

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สนใจสินค้าหรือร่วมธุรกิจฯ/ติดต่อ>
คุณยุทธพงษ์ฯ/โทร.0815301152, 0901912499



    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น